เคยสงสัยบ้างไหม ว่าพยายามนอนเร็วแค่ไหน แต่ก็นอนไม่หลับสักที

มันก็อาจจะมีบางคืนที่เราไม่ได้มีภารกิจอะไรให้ต้องทำก่อนนอน เลยอยากจะเข้านอนเร็วสักหน่อย เพื่อที่ตื่นมาในเช้าวันต่อไปจะได้รู้สึกสดชื่น แต่พอเข้านอน พยายามจะข่มตานอนเท่าไหร่แต่ก็ยังนอนไม่หลับสักที ไม่ว่าจะฝืนแค่ไหนก็ตาม วันนี้เราเลยมีวิธีที่จะทำให้เรานอนได้ตามเวลาที่เราอยากนอนมาฝากกัน เฟซบุ๊กเพจ Are You Deep Sleep – สุขภาพดี เริ่มที่การนอน ได้อธิบายถึงสาเหตุที่เราไม่สามารถนอนหลับได้ตามที่ต้องการเอาไว้ว่า โดยปกติแล้วเรามักจะง่วงเมื่อเราตื่นเป็นเวลานาน ๆ แต่จากการทดลองพบว่า ช่วงเวลา 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอนตามปกติของเราจะเป็นช่วงที่ง่วงได้ยากที่สุด นั่นหมายความว่า ใครที่มักจะเข้านอนตอนช่วงเที่ยงคืนเป็นประจำ ช่วง 4 ทุ่ม – เที่ยงคืนก็จะเป็นช่วงเวลาที่หลับได้ยากที่สุด หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ช่วงห้ามนอน’

แล้ว ช่วงห้ามนอน นั้นหมายถึงอะไร มันเป็นช่วงที่สมองของเราปฏิเสธการนอนหลับ เนื่องจากเป็นช่วงที่เป็นเวลาก่อนนอนหลับตามปกติ เราจะไม่รู้สึกง่วง แม้ว่าจะพยายามนอนให้เร็วขึ้นแค่ไหนก็ตาม สันนิษฐานกันว่าช่วงเวลาห้ามนอนนี้อาจเป็นกระบวนการรักษาการตื่นของมนุษย์เพื่อให้ทนทานต่อความง่วงได้ แล้ววิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราหลับได้ในเวลาที่ต้องการ อย่างแรก ให้เราปรับเวลาในการนอนก่อนล่วงหน้าสัก 2 – 3 คืน โดยให้ค่อย ๆ ปรับเวลานอนให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง แล้วก็ขยับมาเรื่อย ๆ จนได้เวลาที่ต้องการจะนอนให้เร็วขึ้น งดกินอาหารก่อนนอน 4 – 6 ชั่วโมง หรืองดมื้อหนักอย่างน้อย 2 ชั่วโมง จากนั้นก็ไปอาบน้ำ หรือแช่น้ำอุ่นให้ผ่อนคลายสบายตัว

วิธีต่อมาคือการปรับสภาพในห้องให้น่านอน เช่น ปรับกลิ่นในห้องให้หอมสะอาด ผ่อนคลายด้วยเทียนหอม สเปรย์ หรือก้านหอม ปรับไฟให้หรี่ หรือปิดไฟ ปรับอากาศให้สบาย ไม่ร้อน หรือหนาวจนเกินไป งดเล่นมือถือ แท็บเล็ต หรือดูทีวีก่อนอน 30 นาที – 1 ชั่วโมง แต่หากนอนไปแล้วไม่หลับภายใน 30 นาที ก็สามารถลุกขึ้นมาทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ เช่น อ่านหนังสือที่มีเนื้อหาผ่อนคลาย นั่งสมาธิ ฟังเพลงช้า ๆ เบา ๆ หากเริ่มง่วง ๆ แล้วก็ค่อยเข้านอน แต่หากทำทุกวิธีแล้วยังนอนไม่หลับอีก แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธี

อ่านเพิ่มเติม สุขภาพ