ตามความเข้าใจของคนทั่วไป เวลาที่ในช่องปากของเรามีฟันผุ ก็จะนึกกันว่ามีสาเหตุมาจาก ‘แมงกินฟัน’ แน่ๆ ซึ่งถ้ามองตามความเป็นจริงแล้ว แมงที่ไหนมันจะเข้าไปอยู่ในปากของเราได้จริงรึเปล่า ? เพราะอย่างนั้นก็ให้มองตามความเป็นจริงว่าอาการฟันผุเป็นเพราะ ‘แบคทีเรีย’ ที่คุ้นเคย ไม่ได้เกินจากแมงกินฟันแต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้เราก็มีข้อมูลมาให้ทำความเข้าใจกันใหม่ ว่า ‘ฟันผุ’ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
จากข้อมูลของ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ที่ออกมาเปิดเผยว่า ทุกวันนี้เรื่องสุขภาพช่องปากคนไทยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยข้อมูลที่มีการสำรวจพบจะเห็นได้ว่า เด็กที่มีอายุ 3 ขวบ เมื่อฟันน้ำนมขึ้นยังไม่ทันได้นานก็เริ่มผุ พอเข้าสู่ช่วงอายุ 5 – 6 ขวบ ก็จะมีอาการฟันผุมากขึ้น เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นอาการฟันผุก็จะค่อยๆ ลดลง เนื่องจากมีการดูแลและไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่วัยทำงานและผู้สูงอายุจะพบปัญหาฟันผุได้มากที่สุุด ดังนั้น เมื่อมีอาการฟันผุจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในการดูแลและรักษา ละเลยไม่ได้
ฟันผุ เกิดขึ้นได้ยังไง ?
‘ฟันผุ’ เกิดจากการที่มีเศษอาหารเข้าไปติดค้างอยู่ตามซอกฟัน หรือกินอาหารที่มีน้ำตาลและสัมผัสกับฟันเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนแผ่นคราบฟันเกิดกระบวนการย่อยสลายเศษอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลให้กลายไปเป็นกรดแลคติกที่ออกฤทธิ์สลายแร่ธาตุ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โครงสร้างของฟันผุกร่อนไปทีละน้อย จากชั้นเคลือบฟันภายนอกเข้าไปในเนื้อฟัน จากนั้นก็จะทะลุเข้าไปถึงชั้นโพรงประสาทฟัน ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเราถึงปวดฟัน หรือเกิดอาการอักเสบ เป็นหนอง นับว่าเป็นการเริ่มต้นของอาการฟันผุ
ป้องกันยังไงไม่ให้ ‘ฟันผุ’
เรื่องแบบนี้เราสามารถที่จะสังเกตด้วยตาเปล่าได้ โดยให้มองาบริเวณที่ผิวฟันเป็นรู ฟันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ หรือเริ่มมีอาการปวดฟัน ทางแก้เบื้องต้น คือ ให้กินอาหารเป็นแป้งและมีส่วนประกอบของน้ำตาลให้น้อยลง พยายามเลี่ยงขนมหวานที่เหนียวติดฟัน อาทิ ทอฟฟี่ หรือผลไม้อบแห้ง และให้กินเฉพาะอาหารมื้อหลัก อย่ากินจุกจิก