ช่วงนี้กรมการขนส่งทางบกยังคงปิดให้บริการเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากหลีกเลี่ยงการมาชุมนุมของผู้คนซึ่งจะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
แต่สำหรับรถยนต์ที่อายุยังไม่เกิน 7 ปี คุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ได้ จะต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกัน
ที่มา: ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ 2563 ออนไลน์
ประเภทรถที่สามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน อายุรถไม่เกิน 7 ปี น้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน อายุรถไม่เกิน 7 ปี น้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล อายุรถไม่เกิน 7 ปี น้ำหนักรถไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม
- รถจักรยานยนต์ อายุรถไม่เกิน 5 ปี
- รถค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี
- รถที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สทุกชนิด
ข้อมูลสำหรับการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
- ข้อมูลทะเบียนรถ
- ข้อมูลประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. (วันสิ้นอายุความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่า 90 วัน นับจากวันที่ยื่นชำระภาษีถึงวันสิ้นอายุคุ้มครองของ พ.ร.บ.)
ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
- ใครยังไม่ได้ลงทะเบียน ให้ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย
- เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว กลับไป Login ที่หน้าแรก
- คลิกที่ ชำระภาษีรถประจำปี ต่อด้วย ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต
- หากจดทะเบียนรถยนต์เป็นชื่อของตัวเอง ระบบจะแสดงรายชื่อรถยนต์อัตโนมัติ แต่หากไม่ใช่ ให้คลิกที่ ลงทะเบียนรถ กรอกข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกดบันทึก
- เมื่อปรากฏชื่อและทะเบียนรถยนต์ที่ถูกต้อง คลิกไปที่ ยื่นชำระภาษี
- ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง หลังจากนั้นกรอกข้อมูล พ.ร.บ. แล้วคลิกไปที่ กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร
- กรอกที่อยู่ในการจัดส่ง แล้วคลิกไปที่ เลือกวิธีการชำระเงิน
- เลือกชำระได้ 3 ช่องทาง คือ หักบัญชีเงินฝาก, บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต และ พิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถยนต์ แล้วนำไปชำระที่ตู้เอทีเอ็ม หรือแอปพลิเคชั่นของธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
- ตรวจสอบข้อมูลในขั้นตอนสุดท้ายว่าถูกต้องทั้งหมด หากถูกต้องให้กดยืนยัน หากยังมีข้อผิดพลาดให้กลับไปแก้ไขเสียก่อน
- หากชำระเงินเรียบร้อยแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะส่งป้ายวงกลม (ป้ายแสดงการชำระภาษีประจำปี) พร้อมใบเสร็จมาให้ตามที่อยู่ซึ่งคุณระบุเอาไว้ ภายในเวลาไม่เกิน 7 วัน