ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 3.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากความความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น ขานรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 30-31 ม.ค.ที่ผ่านมาซึ่งมีความคืบหน้าในประเด็นสําคัญ อีกทั้งยังมีกําหนดนัดหมายสําหรับการเจรจาการค้าครั้งต่อไป โดยนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้รับคําเชิญไปเยือนกรุงปักกิ่งในช่วงกลางเดือนก.พ.เพื่อเจรจาการค้าต่อเนื่อง ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมจะพบกับประธานาธิบดีสีจินผิง ของจีนในช่วงปลายเดือนก.พ.เช่นกัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณในเชิงบวกและเป็นผลให้ความต้องการทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง นอกจากนี้ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยของดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค.โดยเพิ่มขึ้น 304,000 ตําแหน่ง อย่างไรก็ดีอัตราการว่างงานที่ดีดตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้วและตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงแรงงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของดอลลาร์ ทําให้การปรับตัวลดลงของราคาทองคํายังคงอยู่ในกรอบจํากัด ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคําในวันศุกร์ -6.47 ตัน สําหรับวันนี +ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ